จอห์น วิค 4 อัพเดทหนังใหม่ปี 2023 ดูหนังฟรี | kubhd.com

จอห์น วิค 4

จอห์น วิค 4 ตั้งแต่แมื่อที่ แชด สตาเฮลสกี (Chad Stahelski) ผู้กำกับได้ลั่นคำไว้ตั้งแต่ก่อนฉายหนังจอห์น วิค ภาค 3 หรือ ‘John Wick: Chapter 3 – Parabellum’ (2019) ว่า เรื่องราวการทวงแค้นของ จอห์น วิค อดีตกาลมือสังหารมือชั้นยอด ผู้ครอบครองสมญานามจอมซาตาน ‘บาบายาก้า’ จะไม่สิ้นสุดอยู่เพียงแค่สามภาคแน่ๆ ก็พอๆกับว่าเป็นการผูกคำสัญญาไว้กับบรรดาแฟนหนังแฟรนไชส์สุดเดือดประเด็นนี้ว่าเรื่องราวในภาคถัดไปจะคืออะไร จนกว่าในอีก 5 ปีต่อมา พวกเราถึงได้มองเห็นรูปร่างที่จริงจริงของเรื่องราวที่เป็นอีกทั้งภาคต่อ และก็เป็นครึ่งๆข้อสรุปชะตาชีวิตของ จอห์น วิค ใน ‘John Wick: Chapter 4’ ขอรับ

ซึ่งภาคนี้ สตาเฮลสกีก็ยังคงกลับมารับหน้าที่ควบคุมเสมือนยกตัวอย่างเช่น 3 ภาคแรก จอห์น วิค 4 โดยใช้ค้างแรกเตอร์ที่ประดิษฐ์โดย ดีเร็ก วัวลสตัด (Derek Kolstad) กับดาราหนังชุดเดิมที่กลับมาครบ อีกทั้ง คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) คนดีคนเดิม ลอว์เรนซ์ ฟิซเบิร์น (Laurence Fishburne), เบื่อ แม็กศาสนาเชน (Ian McShane), สมทบด้วยดาราหนังคนใหม่ทั้งยัง ใบเสร็จรับเงิน สการ์สการ์ด (Bill Skarsgård), ฮิโรยูกิ ซานาดะ (Hiroyuki Sanada), ดอนนี เยน (Donnie Yen) แล้วก็นักร้องสาวลูกครึ่งประเทศญี่ปุ่น-อังกฤษ รินะ ซาวายามะ (Rina Sawayama)

ตัวหนังในภาคนี้เริ่มภายหลังที่ จอห์น วิค เบือนหน้าสู้กับศัตรูน้อยใหญ่ทั้งหลายแหล่ และก็เพียรพยายามจะหันหลังให้กับสภาขุนนาง (High Table) มาตลอดใน 3 ภาคแรก ซึ่งภายหลังที่เขาถูกอัปเปหิ หรือถูกขับออกมาจากโลกมือสังหาร แถมยังรอดชีวิตมาได้ในภาค 3 ค่าจ้างของเขาในหน่วยงานมือสังหารก็เพิ่มสูงมากขึ้นทุกเมื่อ ส่วนตัวเขาเองก็อยากได้ที่จะมีอิสรภาพรวมทั้งหนีให้พ้นจากอำนาจรวมทั้งการควบคุมของวุฒิสภา เขาก็เลยจำเป็นต้องเบือนหน้าเข้าสู้กับสภาขุนนาง กระทั่งทำให้ จอห์น วิค เปลี่ยนเป็นตัวอันตรายที่วุฒิสภาจะต้องรีบเด็ดหัวเขาให้ได้โดยเร่งด่วน

รีวิวจอห์น วิค 4 (John Wick 4) แอ็กชันสุดเดือด ทะเยอทะยานอย่างบ้าคลั่ง

รีวิว จอห์น วิค 4 – การศึกเดือดปิดบัญชีโกรธแค้นจัดหนักไซส์พิเศษเลือดเป็นจำนวนมาก

ขณะที่เขาเองก็มิได้ต่อสู้ตามลำพัง เพราะเหตุว่ายังมี โบวารีคิง (Laurence Fishburne) ราชาโลกใต้ดิน รวมถึง ชิมาสึ วัวจิ (Hiroyuki Sanada) ผู้จัดการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ เดอะ คอนว่ากล่าวเนนทัล สาขาโอซากา และก็ วินสตัน (Ian McShane) แล้วก็ชารอน (Lance Reddick) ผู้จัดการแล้วก็พ่อบ้านเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ เดอะ คอนติเตียนเนนทัล สาขานิวยอร์กเจ้าเดิมเจ้าเดิม รอช่วยเหลืออยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง

ทั้งยังวินสตัน ชารอน รวมทั้งทุกคนที่บากบั่นให้การช่วยเหลือเขา จอห์น วิค 4 ถูกบีบคั้นอย่างมากจาก มาร์กีย์ วินเซนต์ เดอ เอ็งรมงต์ (Bill Skarsgård) ผู้ได้รับอำนาจสูงสุดจากสภาขุนนางสำหรับเพื่อการจัดแจงกับ จอห์น วิค มือสังหารบาบายาก้าก็เลยจะต้องเริ่มเดินทางไปไกล 3 เมือง 3 ทวีป

ทั้งยังกรุงปารีส เบอร์ลิน แล้วก็โอซากา เพื่อหาวิถีทางประมือกับอำนาจล้นฟ้าของวุฒิสภาให้ต้องได้ รวมทั้งแถมยังจะต้องเอาชีวิตรอดจากบรรดานักล่าฆ่าหัวตัวท็อปที่วุฒิสภาส่งมาปิดบัญชีโกรธแค้น อีกทั้งนายไม่มีตัวตน (Shamier Anderson) และก็ เคน (Donnie Yen) นักฆ่าตาบอดและก็อดีตกาลเพื่อนเก่าของ จอห์น วิค จุดมุ่งหมายจะเด็ดหัวเขาด้วยด้วยเหมือนกัน

ตัวหนังพูดได้ว่าเริ่มเล่ากัน แบบกระชับฉับไว

แบบไม่ต้องย้อนความให้เสียเวล่ำเวลาครับ ซึ่งก็ดีแล้วอย่างตรงที่ตัวหนังก็สามารถเล่าทุกสิ่ง กับเปิดตัวแอ็กชันได้แบบเร็วๆโดยที่เกือบจะไม่ต้องปูเรื่องจากภาคที่แล้วให้เสียเวล่ำเวลา แต่ตัวหนังเองก็มีการใช้ส่วนประกอบ นักแสดง แล้วก็กิมไม่กนิดๆหน่อยๆจากภาคก่อนๆด้วย เป็นถ้าเกิดให้นักเขียนชี้แนะ ก็ต้องการเสนอแนะว่าควรจะหาดูอีกทั้ง 3 ภาคแรกมาก่อนเพื่อรู้เรื่องในส่วนประกอบและก็เรื่องราวอย่างสมบูรณ์

แม้กระนั้นถ้าหากไม่ว่าง การกระโดดมาดูภาคนี้ก่อนแล้วย้อนไปมองภาคเก่าก็ยังนับว่าไม่ผิดบาปมากมายขอรับ แต่ว่าบางครั้งอาจจะงงงันกับต้นเหตุของบางเส้นเรื่อง บางส่วนประกอบนิดหนึ่งสิ่งที่คงจะชอบใจและก็สาแก่ใจแฟนหนังในภาคนี้จำพวกที่เรียกว่าสมการคอยก็คือ ด้วยความยาวหนังที่ยาวมากยิ่งกว่าทุกภาคหมายถึง2 ชั่วโมง 49 นาที หรือ 169 นาที ก็เลยทำให้ตัวหนังเพิ่มฉากแอ็กชันหรูที่มองโวนิดๆแต่ว่าก็ยังมีความโก้เก๋ ดิบรุนแรง

เหมือนจริงในสไตล์ จอห์น วิค อัดกันตั้งแต่เริ่มเรื่อง เป็นยังเริ่มเรื่องได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดี พี่จอห์น วิค ก็ได้เรื่องซัดคนฝึกซ้อมรอคอยแล้ว และก็แต่ละฉากก็เป็นฉากแอ็กชันที่เน้นย้ำช็อตยิงยาวซะด้วย เป็นพูดได้ว่าแค่นั่งดูเฉยๆยังอิดโรยนะครับ เนื่องจากมันเดือดแบบไม่มีพักไม่มีผ่อน คนเขียนคะเนเอาครับผมว่า ฉากแอ็กชันในหนังนี่เป็นรวมกันคงจะเกิน 50% ของหนังทั้งยังเรื่องไปแล้วมั้ง เป็นกว่าจะพักเพื่อเดินเส้นเรื่องต่อได้แต่ละทีนี่ก็เรียกว่าเหน็ดเหนื่อยราวกับลงไปต่อสู้เองเช่นไรแบบนั้น

จอห์น วิค 4

John Wick: Chapter 4 จอห์น วิค แรงขุนนางเกลื่อนกลาด 4

ซึ่งในมุมหนึ่งมันก็เป็นการโชว์ความละเอียดถี่ถ้วนของงานด้านการออกแบบคิวบู๊ แล้วก็การเตรียมงานด้านสตันท์แมนที่ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยมครับผม จอห์น วิค 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ จอห์น วิค จำเป็นต้องเดินทางไปยังเมืองต่างๆพวกเราก็จะได้มองเห็นฉากแอ็กชันในเมืองนั้นๆที่มีความต่างและก็มีเอกลักษณ์นานับประการ

มิได้เพียงแค่ตีๆยิงๆกันเฉยๆดังเช่นว่าขณะที่เดินทางไปบังกะโล เดอะ คอนว่ากล่าวเนนทัล สาขาโอซากา งานคิวบู๊ก็จะมีความเป็นทวีปเอเชียสูงมากมาย มีการต่อสู้ที่ผสมความเป็นกังฟู มีการใช้ตะบองสองท่อน ผสมกลิ่นหนังซามูไรหน่อยๆในเบอร์ลินก็จะมีความย้ำการดวลปืน การใช้ขวานและก็ไพ่เป็นอาวุธ แล้วก็ในกรุงปารีส ก็จะได้มองเห็นคิวบู๊ที่มีการใช้รถยนต์เข้ามาประกอบ และกลิ่นความเป็นหนังคาวบอยตะวันตกเข้ามาผสม

อีกจุดแข็งของ ‘John Wick’ จากทุกภาค

ก็คือ งานด้านภาพที่วางแบบได้งดงามประหลาดตา ซึ่งในภาคนี้ก็ราวกับคณะทำงานร้อนของ เลยจัดเต็มงานด้านภาพมากกว่าภาคอื่นๆทำให้พวกเราจะได้มองเห็นฉากแอ็กชันที่ไม่ใช่แค่มันรวมทั้งโหดเหี้ยมเลือดสาดสิ่งเดียว แม้กระนั้นยังวางแบบส่วนประกอบภาพได้อย่างน่าดึงดูด การเลือกใช้สีสันที่ Contrast ตัดกันแจ่มชัด รวมทั้งมุมกล้องถ่ายภาพที่หวือหวาจัดเต็มมากกว่าทุกภาค

อีกทั้งฉากแอ็กชันแบบ Long Take กันแบบยาวๆรวมถึงมุมกล้องถ่ายภาพที่แปลกออกไป ที่คนเขียนถูกใจมากมายก็คือ ฉากแอ็กชันในกรุงปารีสที่อยู่ในองก์ที่ 3 นี่แหละที่เรียกว่าจัดเต็มแบบเบิ้มๆไปเลย อีกทั้งฉากดริฟต์รถยนต์ที่รีฟส์ใช้เวลาฝึกซ้อมยาวนานกว่า 9 เดือน ฉากต่อสู้บนบันไดสูง และก็ฉากที่พวกเราจะได้มองเห็น จอห์น วิค ยิงปืนสอยเปรี้ยงๆๆครั้งละคนสองคนด้วยปืนลูกซองพ่นไฟ (Dragon’s Breath) จากมุมสูง! เป็นคิวบู๊แล้วก็มุมกล้องถ่ายรูปที่โคตรคราวฟต์แล้วก็บ้าพลังมากมายๆ

ถึงแม้ตัวหนังแอ็กชันจะจัดเต็มขนาดนี้ แม้กระนั้นสิ่งที่จัดว่าทำเป็นดียิ่งขึ้นมาอีกขั้นก็คือเรื่องบทครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถักต่อภาพของจักรวาลมือสังหารให้ไปไกลมากกว่าเดิม 678moviehd นอกเหนือจากเรื่องของเหรียญทองที่ใช้เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์รวมทั้งผลประโยชน์ของเหล่ามือสังหาร การเพิ่มหรือปลดพื้นที่ศูนย์กลาง ยี่ห้อสัญญะ (ยี่ห้อแทนคำมั่นสัญญาระหว่างมือสังหาร) การตีตราภาระแห่งชาติเกิด ผู้ใหญ่ที่อยู่เหนือสภาขุนนาง

การเข้าพิธีบูชากลับสู่ชาติสกุล การยืนยันความซื่อสัตย์ต่อสภาขุนนางที่ยอมเจ็บตัว หรือเปล่าบางครั้งบางคราวก็ยอมตายได้เลย ในตอนที่พวกเราก็จะได้มองเห็นการถอยกลับมาบอกเรื่องของบาปที่จอห์น วิค จำเป็นต้องพบเจอ เนื่องจากถึงแม้การที่เขาฆ่าคนไปนับร้อยๆจะเกิดเรื่องที่พวกเราบางทีอาจจะคิดว่ามันถูกเป็นธรรม (และก็แอบหนำใจ) อยู่และก็ตามที ตัวหนังก็สะท้อนอีกมุมให้มีความเห็นว่า บางโอกาสการไล่ฝ่าดะฆ่าคนของ จอห์น วิค บางครั้งอาจจะไม่ใช่กรรมวิธีในที่สุดที่จะล้างบางกับอำนาจอันล้นเหลือของวุฒิสภาก็ได้

จอห์น วิค 4

แต่ว่าในเวลาเดียวกัน ผลการทำของเขาเอง

ที่เคยถูกย้ำเอาไว้แล้วในภาคก่อนๆก็ได้สะท้อนออกมาให้มองเห็นในองก์ในที่สุด หรือองก์ในกรุงปารีสนั่นเองนะครับ ซึ่งอันที่จริงแล้วองก์ในที่สุดนี่นับว่าเป็นไฮไลต์ที่คนเขียนถูกใจและก็ชี้แนะให้คอยดูครับผม เป็นแน่ๆล่ะว่ามันก็ยังคงมีบางส่วนประกอบและก็บางเรื่องราวที่ยังมีความเบียว มีความเป็นอนิเมะอยู่เช่นเดียวกับภาคก่อนๆล่ะ แต่ว่าพอเพียงพี่วิคจำต้องมาประทะกับมาร์กีย์ในฉากในที่สุด

นอกเหนือจากการที่จะฉุดกระชากฟีลด้วยฉากต่อสู้ที่โคตรจะเรียบง่าย แต่ว่าก็ลุ้นมือหงิกงอไม่แพ้ 2 องก์แรก และก็ฉากนั้นก็เป็นเสมือนการสรุปและก็สะท้อนสิ่งที่เป็นรูปธรรมของ Message หลัก โดยยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการรับผลการทำ (รับบาป) ที่แอบแฝงอยู่ในเรื่องโดยตลอดอีกทั้ง 4 ภาคให้มองเห็นออกมาได้อย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย

อีกจุดที่เอ๋ยถึงมิได้ก็คือบรรดาเหล่าดาราหนังอีกทั้งเก่ารวมทั้งใหม่ครับผม แน่ๆล่ะว่า คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) ก็ยังคงรับหน้าที่นำหนังได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นมองเห็นฉากบู๊แต่ละฉากนี่ก็กล่าวได้ว่านับถือในความทุ่มเทเลยนะครับ เป็นหนัก อ่อนเพลียแล้วก็เจ็บกว่าทุกภาคแน่ๆ จอห์น วิค 4 แม้กระนั้นก็ยังวาดลวดลายได้อย่างโก้ตั้งแต่วินาทีแรกจนถึงวินาทีในที่สุด และก็ผู้แสดงคนใหม่ทั้งยัง ใบเสร็จรับเงิน สการ์สการ์ด (Bill Skarsgård)

ที่แสดงในบทมาร์กีย์ คนร้ายหน้านิ่งได้เท่มาก แม้กระนั้นที่เรียกว่ามาเหนือก็คือ ฮิโรยูกิ ซานาดะ (Hiroyuki Sanada) แล้วก็ ดอนนี เยน (Donnie Yen) ที่ต่างก็โชว์ความสามารถการต่อสู้ได้ลักขโมยซีน และก็หรูโคตายควายล้มกันสุดๆไปเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอนนี เยน นี่คนเขียนคิดถึงแล้วก็มีความรู้สึกว่าโก้เก๋เท่ากับโจวเหวินฟะ ในหนัง ‘โหดเหี้ยม ต่ำทราม ดี’ เลยขอรับ

แต่ว่าแม้กระนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดพิจารณาเลยคะนะครับ ด้วยความยาวของตัวหนังนี่แหละที่แม้ว่าจะทำให้พวกเราเพลิดเพลินไปกับฉากแอ็กชันได้อย่างสนุก แต่ว่าในเวลาเดียวกัน เพียงพอมันเป็นช็อตยาวๆแล้วก็มีการตัดต่อช่วยค่อนข้างจะน้อย มันก็เป็นการเปิดแผลของตัวหนังให้เห็นกระจ่างกว่าภาคอื่นๆด้วยเช่นเดียวกัน อาทิเช่นบางจังหวะในฉากบู๊ที่กำลังต่อสู้กัน นักเขียนก็แอบมองเห็นความเนือยของทั้งยังจอห์น วิค รวมทั้งคู่แข่งขันอยู่เป็นช่วงๆรวมถึงการต่อสู้บางซีนในสถานที่ปิดเป็นระยะเวลานานๆมิได้คัตไปซีนอื่น ก็แอบทำให้มีความรู้สึกเบื่อนิดๆอยู่เช่นเดียวกัน