Moviehdfree หนัง Scream VI – กรีดร้องสุดๆ 6 ล่วงเลยไปราวๆปีกว่าๆแค่นั้น ตั้งแต่แมื่อภาคต่อ Scream เข้าฉายในปี 2022 มันก็ได้มีภาคต่ออย่างเร็วกับ Scream VI – หวีดร้องสุดๆ 6 ที่ยังคงได้ผลสำเร็จการงานควบคุมของ Matt Bettinelli-Olpin และก็ Tyler Gillett เล่าราวต่อจากภาคเก่าเลย ที่ในตอนนี้กรุ๊ปผู้แสดงนำได้ย้ายมาอยู่ New York แต่ว่าก็ยังจะต้องประจันหน้ากับการมาแสดงตัวของ Ghostface จุดหมายไล่ล่าฆ่าอีกรอบ
การที่จะดูหนังภาคนี้ให้บันเทิงใจ มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะจำเป็นต้องมองภาค 1-5 มาก่อน ด้วยประการทั้งปวง มิเช่นนั้นจะมีจังหวะมึนงงแน่ๆ ด้วยเหตุว่าในภาคนี้มีการเอ๋ยถึงผู้แสดงเก่ามากอย่างยิ่งจริงๆ การที่ไปตามเก็บเรื่องราวภาคก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาจะมีผลให้รู้เรื่องรายละเอียดนักแสดงที่หนังภาคนี้เอ่ยถึงมากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็รู้เรื่องเหตุการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะมันเป็นภาคที่ 6 แล้ว ในภาคนี้ตัวหนังก็อุตสาหะแหกกฏความเป็นหนังเฉือนภาคต่อ ด้วยการขยับเป็นแฟรนไชส์ที่เป็น Requel คิดกระบวนการเล่าให้มันแตกต่างกันออกไป ที่สำคัญเป็นในภาคนี้ไม่มีการปรากฏตัวของผู้แสดง Sidney Prescott ด้วยการขัดกันปัญหาเกี่ยวกับค่าตอบแทนของผู้แสดงอย่าง Neve Campbell มันก็เป็นทั้งยังข้อดีขอเสีย เป็นในด้านจุดเด่นหนังจะได้ move on จากนักแสดงนี้สักครั้ง ซึ่งจริงๆแอบเชียร์ให้ตายไปเลยในภาค 5 เสมือนอย่าง Dewy ส่วนในด้านข้อตำหนิซึ่งมันตัดบทนักแสดงนี้ซนๆกระทั่งทำให้มุมมองต่อตัวละครนี้แปรไป
Moviehdfree ด้านดาราหนังภายหลังที่ไม่มี Neve Campbell ก็เสนอนักแสดงใหม่จากภาคที่แล้วมาเล่าต่อ
อย่าง Melissa Barrera ในบท Sam Carpenter ที่ก็รับผิดชอบหน้าที่ของตนเองได้ดิบได้ดี เป็นตัวนำที่มองไม่เสมือนเป็นเหยื่อ มองมีความโหดเหี้ยม ส่วนที่น่าชื่นชอบไม่แพ้กันเป็นการแสดงของน้อง Jenna Ortega ในบท Tara Carpenter พวกเรามองเห็นการแสดงของคุณมาแล้วใน Wednesday ในหัวข้อนี้ก็เป็นการยืนยันอีกว่าคุณแสดงทางสีหน้าท่าทางได้เก่งจริงๆเป็นไม่มีบทสนทนาพวกเราก็สามารถทราบได้เลยว่าคุณคิดเรื่องอะไรอยู่ผ่านสีหน้าท่าทางของคุณ ส่วนตัวละครอื่นๆก็มาช่วยเหลือกันเติมเต็มเรื่องราว สร้างความข้องใจ ไม่น่าไว้วางใจได้ดีมากๆเลยทีเดียว เว็บหนังออนไลน์ฟรี
ในความเป็นจริงแล้วแฟรนไชส์ Scream เปิดเรื่องเจริญทุกภาคเลยจ้า แล้วก็ในภาคนี้ก็ปฏิบัติดีขึ้นไปอีก เป็นถ้าคนใดกันเคยมองก็พอเพียงจะทายใจได้ล่ะว่ามันกำเนิดอะไรขึ้น ทายใจได้แบบเปิดมาฉากแรกปุบปับทราบเลย แม้กระนั้นหนังมันเหนือไปกว่านั้น! ซึ่งครึ่งแรกของหนังสนุกสนานมากมายจริงๆอีกทั้งการไล่ล่าของ Ghostface ที่พร้อมจะไล่ล่าไล่ฆ่าได้ตลอดเวลา นี่เป็นหนัง slasher ที่มีฉากไล่ล่าฆ่าอย่างหนำใจ โหดเหี้ยม เหี้ยมโหด เป็นต้นว่าเดิม และก็ยังคงเสน่ห์ในหนทางของตนเอง มีความเป็น Whodunit ทายใจตัวคนร้ายของแฟรนไชส์ตนเองไว้อย่างแจ่มแจ้ง ยังคงเล่นข้อความสำคัญให้ผู้ชมทายใจทางตัวคนร้ายจริงได้ไม่ง่ายอย่างเช่นเดิม
แต่ว่าถึงมันจะอุตสาหะแหกกฏอย่างไร ในช่วงหลังเสมือนตัวหนังจะเพลเซฟไปสักนิดสักหน่อย ยังไม่กล้าเล่นให้สุดกว่านี้ อีกทั้งการเล่าเรื่อง กรรมวิธีเล่า มันก็มีความเป็นหนังตามสูตรตนเองอยู่แบบเดียวกัน ซึ่งมันให้ความรู้ความเข้าใจสึกราวกับมองภาคเก่าๆมันแบบซึ่งมันก็เป็นมุก เป็นเสน่ห์ที่จะต้องมีล่ะส่วนประกอบบางสิ่งบางอย่างที่ภาคเก่ามี แม้กระนั้นเป็นจุดเฉลยคำตอบมันก็มิได้ว้าวหรือเหนือความมุ่งหวังขนาดนั้น มันเปลี่ยนเป็นเรื่องราวที่ราวกับจับโยนๆมาให้ผู้ชมเชื่อฟังท่านั้น เสมือนอย่างที่ภาคต่อ Scream เป็นมาตลอด แต่ว่าก็น่าชมที่มันยังคงเสน่ห์แฟรนไชส์เอาไว้โดยไม่ออกสมุทรจนถึงกู่ไม่กลับ
เป็นตัวหนังมีความบากบั่นก้าวไปด้านหน้า เปิดพื้นที่อะไรใหม่ๆ Moviehdfree
แม้กระนั้นมันก็ยังมีความไม่ก้าวไปไหนเว้นแต่ใหม่เพียงแค่นักแสดงอยู่แบบเดียวกัน เป็นหากมันเป็นภาค 5 ภายหลังจากกลับมาก็โอเค แต่ว่าพอนี่ภาค 6 แล้ว มันควรใหม่ แหกกฏ หักมุม อะไรได้มากกว่านี้ ซึ่งมันก็ยากล่ะผ่านมาแล้ว 5 ภาค เฉลยคำตอบตัวคนร้ายไปแล้ว 9 คนรับใช้ไปหลากหลายแนวทาง แม้กระนั้นมันก็ยังปูเรื่องราวของตัวเอกได้อย่างน่าดึงดูดว่าในอนาคตผู้แสดงนี้จะเดินเรื่องถัดไปเช่นไร
สรุปแล้ว Scream VI – หวีดร้องเต็มที่ 6 ยังคงเป็นภาคต่อแฟรนไชส์ที่เล่าบันเทิงใจ น่าติดตาม ยังคงเสน่ห์ความเป็น Scream ไว้อย่างสมบูรณ์ ภาคนี้ยังไล่เฉือนได้เพลิดเพลิน โหดเหี้ยมอยู่ดังเช่นว่าเดิม คาแรคเตอร์ Ghostface ก็ยังคงคอนเซ็ปท์ผู้แสดงไว้อย่างยอดเยี่ยม ตัวหนังแม้จะมีการมานะแหกกฏทำอะไรใหม่ๆแม้กระนั้นก็ยังไม่มากพอที่จะชักชวนให้ว้าวขนาดนั้น แม้กระนั้นแน่ๆว่าถ้าหากเป็นแฟนของแฟรนไชส์นี้ก็จะยังคงได้ยิ้ม ได้เฮอปิ้งแน่ๆ รวมทั้งมันก็ยังคงเปิดพื้นที่ให้มีภาคต่อได้อย่างยอดเยี่ยม วางเรื่องราวของนักแสดงไว้ได้อย่างน่าดึงดูด ซึ่งมันก็ยังคงทำให้พวกเราต้องการตามภาคถัดไปแบบเดียวกันว่าจะมาในแนวทางไหน
ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่าหนังแอ็กชันสไตล์สมัย 90s ที่ใช้งบประมาณกลางพล็อตไม่สลับซับซ้อน ดารานำชายพร้อมคู่ซี้ตะลุยมิจฉาชีพเป็นกองกองทัพช่วยตัวประกันโดยมิได้มีชุดหรือโลโก้ซูเปอร์ฮีโรได้เหือดแห้งไปจากโปรแกรมหนังโรงมาพักใหญ่แล้ว และก็ชื่อที่มักมาพร้อมหนังแนวนี้ก็หนีไม่พ้น พบร์ราด บัตเลอร์ (Gerard Butler) ที่ครั้งนี้ขอปั้นหนังเรือบินตกฝ่าวงล้อมศัตรูช่วยตัวประกันอย่าง ‘Plane’ มาเอาอกเอาใจคนชอบดูหนังบู๊กันในอาทิตย์นี้
ช่วยเหลือข้อมูลโดย Major Cineplex
เรื่องราวของ ‘Plane’ เริ่มเมื่อไฟล์ตบินตอนปีใหม่ของกัปตันโบรติ (พบร์ราร์ด บัตเลอร์ Gerard Butler) จะต้องจำนนรับผู้โดยสารวีไอพีอย่าง หฝ่าส์ เอ็งสปาร์ (ไมค์ วัวลเทอร์ Mike Colter) ผู้ต้องขังคดีร้ายแรงที่เอฟบีไอควบคุมตัวขึ้นเครื่องบิน แม้กระนั้นด้วยสภาพภูมิอากาศเลวทรามทำให้โบความยินดีตกลงใจนำเครื่องบินลงจอดบนเกาะทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์โดยไม่ทราบเลยว่ามันจะเป็นการพาผู้โดยสารของเขาไปสู่ดินแดนกบฏแยกดินแดน งานนี้โบรติจำเป็นต้องจำยอมร่วมมือกับผู้ต้องขังที่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังสุดดำมิดหมีเพื่อช่วยเหลือผู้โดยสารของเขาออกมาจากเกาะแดนนรกนี้ให้ได้
ด้วยหน้าหนังรวมทั้งเค้าเรื่องของ ‘Plane’ ทำให้ผมอดรำลึกถึงหนังแอ็กชันดังๆสมัย 90s อย่าง ‘Turbulence’ ที่ว่าด้วยมหันตภัยของผู้ต้องขังโรคทางจิตบนเรือบินที่ตกหลุมอากาศ หรือหนังแอ็กชันเกี่ยวกับเรือบินและก็เดนมนุษย์ระดับตำนานอย่าง ‘Con Air’ หรือแม้กระทั้งหนังแนวบุกระห่ำช่วยตัวประกันอย่าง ‘Die Hard’ ที่แม้กระทั้งหนังที่บัตเลอร์โปรดิวซ์เองอย่าง ‘Olympus has Fallen’ ยังจับมาเป็นแรงจูงใจผสมกันเป็นค็อกเทลสุดมันอย่างหนังประเด็นนี้
จริงอยู่ว่าถ้าวัดค่าพลังจากค่าของงานโปรดักชัน (Production Value) มันบางครั้งก็อาจจะยังตกอยู่ในฟากหนังเกรดบีทั้งการที่หนังเลือกที่จะเล่าในเรือบินก็แค่น้อยเท่าที่มีความจำเป็นประสมประสานกับเทคนิดบ้านๆอย่างการเขย่ากล้องถ่ายภาพหรือมีฉากที่คนถูกสุญญากาศดึงขึ้นไปชนกับเรือบินให้เพียงพอตื่นเต้น รวมทั้งมีงานซีจีที่มิได้งามตาแตกราวกับหนังมาร์เวลทุนสูงๆแม้กระนั้นอย่างต่ำมันก็ไม่ทุจริตผู้ชมครับ เพราะว่าบทหนังเองก็ดูเหมือนให้ความเอาใจใส่กับความประพฤติปฏิบัติของผู้แสดงนำชายและก็ตรรกะสำหรับการเอาชีวิตรอดของผู้แสดงอย่างมีท่วงที
โดยรวมก็เป็นหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์ที่บันเทิงใจสนุก ปลุกความเร้าอารมณ์ถี่ๆตลอดเรื่อง ด้วยหลายๆเงื่อนหลายๆปัญหาทยอยส่งออกมาเป็นระลอก บางช่วงกระชับ บางช่วงก็ยื้ออารมณ์ไปหน่อย งานภาพเสียงจัดหนัก ถ้าหากได้ดูในระบบ 4DX อาจตื่นเต้นขึ้นไปอีก แต่ว่าส่วนตัวก็รู้สึกในบางทีว่าซาวน์มากมาย โหมฟุมเฟือยจนถึงเคยชินไปซะงั้น
emegency declaration 11
ความละลานตาตื่นเต้นของฉากวิกฤติข้างในเรือบินทำเป็นร่าเริงแจ่มใส จนถึงบางทีอาจเผลอลืมมองดูความเหมือนจริงที่ถูกไม่มีความสนใจไปบ้าง อาทิเช่นเครื่องใช้ไม้สอยความปลอดภัยมาตรฐานบนเครื่องมิได้ร่วมฉากเลย หรือในมุม ‘เชื้อไวรัส’ การรู้จักเชื้อใหม่แล้วก็การดูแลและรักษาที่จำต้องใช้เวลา ถูกรวบรัดตัดตอนไปในความเป็นหนัง หมู่เราในยุคนี้ที่ผ่านประสบการณ์จริงมาแล้วหลังจากนั้นก็บางทีอาจกระอักกระอ่วนดวงใจได้บ้าง รวมทั้งการสามารถเข้าถึงแล็ปแบบง่ายถางเกินจริง ซึ่งจริงๆแล้ว พล็อตของเชื้อไวรัสเป็นสิ่งที่ผู้กำกับได้ตระเตรียมบทไว้เมื่อก่อนก่อนที่จะมีการระบาดของวัววิดเสียอีก
ความยาวร่วมสองชั่วโมงครึ่งสำหรับงานทริลเลอร์แอ็คชั่นที่โหมระทึกถี่ๆแบบงี้ มองกันหอบอ่อนเพลียเลย 🙂 เว้นเสียแต่ความกินเวลาในบางช่วงแล้ว ความเพียรพยายามจบในวิถีที่ต่างไปจากหนังแนวนี้โดยธรรมดา ก็เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดที่ทำให้ใช้เวลาเพิ่ม เป็นการแสดงผลสรุปของนักแสดงหลักภายหลังสถานะการณ์สำคัญ มองดูในมุมดีเป็นเหมือนจริงทะลุบ้องไม่คาใจดีจ้ะ ออกกำลังกาย
เนื่องจากว่าเป็นหนังทุนต่ำ ทำให้งบประมาณทางด้านซีจีย่อมจำกัด จระเข้ก็เลยมิได้โผล่มาให้มองเห็นสุดกำลังชัดๆนัก ส่วนมากก็มองเห็นเพียงแค่หัวกับข้างหลังว่ายไปว่ายมาในน้ำนั่นแหละ มี 2 – 3 ครั้งพอดีพุ่งออกมาจากแผ่นน้ำเฉยๆเข้าใส่เหยื่อ อันนี้เห็นผลโคตรๆครับผม ดูหนังอย่างนี้จำเป็นต้องได้ตกใจและจากนั้นก็เป็นการผวาได้หมดตัวเลย ก็จะต้องยกย่องว่าหนังมิได้โชว์จระเข้แบบบ่อยเกิน มาน้อยแม้กระนั้นมาแล้วสำเร็จจริง ดนตรีประกอบก็มีไม่เท่าไรนัก เนื่องจากว่าส่วนมากจะปลดปล่อยให้ลุ้นกันเฉยๆทำให้บรรยากาศโดยรวมบีบคั้นเป็นอย่างมาก
จะว่าไปไอ้ความรู้สึกว่าน่ากลัวนี่ ก็น่าสยองด้วยบรรยากาศล้อมรอบของหนังที่ด้วยกันใบเสร็จรับเงินด์เข้ามา หาใช่ความน่าขนลุกจากตัวจระเข้ ซึ่งความที่พวกเราต่างรับทราบถึงความป่าเถื่อนของจระเข้ก็เป็นความรู้สึกสามัญรากฐานให้พวกเราสร้างความหวาดกลัวขึ้นมาเองได้แล้ว แต่ว่าจระเข้ในหนังโน่นพวกเราแทบจะมิได้มองเห็นตัวมันเต็มๆชัดๆเลย จะว่ามันน่าสะพรึงกลัวเพราะว่าภาพลักษณ์ก็มิได้ เพราะว่านอกเหนือจากหนังจะไม่สอนเบสิคของนักแสดงให้พวกเรารู้จักแล้ว จระเข้ตัวร้ายของหัวข้อนั้น พวกเราก็แทบจะมิได้รู้จักเหตุว่ามันมีเกียรติคุณความโหดเหี้ยมมาก่อนหรือเปล่า มาอยู่ในถ้ำนี้ได้ยังไง มันใหญ่มากยิ่งกว่าธรรมดาไหม ตกลงว่ามองจนกระทั่งจบแล้วยังไม่เคยทราบว่ามันมีกี่ตัวเลยด้วย